Forwardmag.com' Artist

Scarlett Johansson กับงานเพลงสุดทึ่ง อึ้งจริงๆ

 

 >> Scarlett Johansson

 

คลอดออกมาให้ฟังกันไปแล้ว สำหรับ ซิงเกิ้ลเปิดตัว “Falling Down” ที่ดาราสาวอกภูเขาไฟ Scarlett Johansson เลือกที่จะนำเพลงของนักร้องนักแสดงรุ่นใหญ่ Tom Waits มาร้องใหม่ในแบบฉบับของเธอ ที่หลอนไม่ต่างกับต้นฉบับที่วัยรุ่นสมัยนี้จะทนฟังลุง Tom แกได้ ฮา...เสียงของเธอช่าง unique ออกไปในแนวย้อนยุค ช่างฮอลลีวู้ดเหลือเกินว่างั้น ซึ่งก็มีทั้งเสียงบ่น-ชม-กร่น-ว่า มีทั้งคนที่ชอบ และไม่ชอบ ถึงกับมีโพยให้เลือกโหวตตัดสินกันไปเลยว่า เพราะดีฟังแล้วรีแล็กซ์ กับ จิงดิ? ให้ตายเหอะ ฟังแล้วชวนง่วงมาก เสียงแม่นางเอกคีย์ต่ำได้อีก อ๊ายย นี่เรากำลังจะช่วยค่ายขายอัลบั้มนะคะ

 

นี่คือบทบาทใหม่ ที่นักแสดงสาวสุดจะเซ็กซี่และอึ๋มธรรมชาติ ขวัญใจหนุ่มๆ ทั่วโลก  อย่าง Scarlett Johansson ก้าวข้ามจากบทบาทการแสดง สู่การเป็นนักร้องออกงานเพลงชุดแรกอย่างเต็มตัวกับงานเพลงชุดแรกที่ใช้ชื่อว่า Anywhere I Lay My Head  ที่ได้ร่วมงานกับโปรดิวเซอร์นาม David Andrew Sitek หนึ่งในสมาชิกวง TV On The Radio และ David Bowie (ตาลุงนี่เอง ไม่แปลกแฮะที่แม่คุณจะร้องเพลงออกมาได้ฟีลแบบนี้) ที่มาช่วยสาว Scarlett เธอถึง 2 แทร็คด้วยกันนั่นก็คือ  "Falling Down" ที่ตัดมาเป็นซิงเกิ้ล และ "Fannin Street"

 

ไหนๆ ก็มาจับไมค์ร้องเพลงอย่างเต็มตัวขนาดนี้ แต่กลับมีคำถามที่ว่า ทำไม สาวรุ่นใหม่ ภาพลักษณ์แม่คุณทูนหัวก็ออกจะเซ็กซี่ปากอิ่มจะตาย ดูแล้วน่าจะทันสมัย  ถึงได้เลือกเพลงทั้งเก่าทั้งย้อนยุคของลุง Tom Waits ปัจจุบันอายุ 58 อยู่กับลูก 3 เมียที่บ้าน มาร้องใหม่ เลือกตัดเป็นซิงเกิ้ลแรก แทนที่จะเป็นเพลงที่ทำขึ้นมาใหม่สำหรับตัวเอง โดย 11 เพลงในอัลบั้มนี้ เป็นเพลงเก่าที่เลือกมาจากหลายๆ อัลบั้มของ Tom Wait ทั้งหมด 10 เพลงด้วยกัน มีอยู่แค่เพลงเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ Song For Jo" ที่เป็นเพลงใหม่ และเขียนโดย Scarlett ร่วมกับ David Andrew Sitek โปรดิวเซอร์ของอัลบั้มชุดนี้

 

เหตุผลนั่นก็เพราะ... ก็แค่มีคนอยากเห็น Scarlett  นั้นร้องเพลง I Never Talk To Strangers ที่ Tom Waits ร้องไว้คู่กับ Bette Midler แค่นั้นเอง รวมถึงตัวเธอเอง ก็เป็นแฟนเพลงของ Tom Waits อยู่แล้ว แถมก่อนหน้านี้ ก็เคยโชว์เสียงร้องเพลงเก่าอย่าง Summertime ในอัลบั้มการกุศลมาแล้ว จึงไม่แปลก ที่แทนที่จะทำเพลงร่วมสมัย เธอกลับเลือกที่จะร้องเพลงเก่าในแบบฉบับของตัวเอง  Scarlett Johansson มากกว่า

 

 

 

 

ด้านอาชีพการแสดง  Scarlett Johansson เข้าวงการตั้งแต่อายุเพียง 10 ขวบ เป็นดาราสาวสวย ที่สามารถแสดงได้หลายบทบาท รวมถึงหน้าตาก็ละม้ายคล้ายกับ มาริลีน มอนโร กระทั่งหลายๆ คนเริ่มจะรู้จักเธอจาก Lost In Translation ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ทำให้ได้รับรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม

 

 

และแน่นอนว่าก่อนจะก้าวสู่วงการเพลงอย่างเต็มตัว Scarlett ก็โดดไปเล่นมิวสิคเพลง What Goes Around...Comes Around ที่ทำให้ Justin Timberlake ได้รางวัล MTV Music Video Award ปี 2007 ติดมือไปด้วย พร้อมกระแสข่าวในช่วงนั้นว่าทั้งคู่ปิ๊งกัน แต่ข่าวลือก็คือข่าวลือ ที่กลายเป็นการโปรโมทข่าวคราวเรื่องที่ว่านางเอกสาวของเราจะหันมาจับไมค์ ออกอัลบั้มอย่างเต็มตัว แล้วเธอก็ทำมันจริงๆ แถมยังตัดหน้าดาราสาวอย่าง Gwyneth Paltrow ศรีภรรยาของพ่อ Chris Martin จากวง Coldplay ที่มีข่าวว่าจะออกอัลบั้มไล่เลี่ยกันอีกด้วย แต่แล้วก็ยังเงียบ จนคุณสามีพาทั้งซิงเกิ้ลทั้งอัลบั้มข้ามฝั่งจากเกาะอังกฤษ ขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ดไปเรียบร้อย

 

>> MV - Falling Down ซิงเกิ้ลแรก

Kat De Luna ดาวรุ่งคนใหม่เจ้าของเพลง Whine Up

 

KAT DeLUNA

 

สาว R&B จากบร็องซ์ / นิวยอร์กคนนี้ มีชื่อเต็มๆ ว่า  Kathleen Emperatriz "Kat" DeLuna

ทันทีที่ซิงเกิ้ลแรกเปิดตัว Whine Up” ของคุณน้อง เข้าหูอีเจ๊อดีตเจ้าแม่โรมคลับซอย.4 ของเรา เจ๊แกก็หูผึ่งทันที สั่งให้สืบเสาะหามาให้ได้ว่าเจ้าของเสียงร้องสุดเก๋เดิร์นคนนี้ชีคือใคร  แต่แล้วก็ต้องอึ้ง เพราะคุณน้อง Kat DeLuna (แคท เดอ-ลู-น่า) คนนี้ เธอเพิ่งจะอายุได้แค่ 19 ปีเท่านั้น แต่น้ำเสียงนี่ไม่ธรรมดา พลังเสียงเกินตัวมั่กๆ (5 octave vocal range) ถ้าอยากรู้ว่าเจ๋งยังไง คลิกไปดูเอ็มวี Whine Up feat. Elephant Man ที่คุณน้องโก่งคอส่งเสียงโอเปร่า ฮา ฮ๊า ห่า....โห่ โฮ้ โอ ตอนต้นเอ็มวีดูได้เลย แล้วจะอึ้งกับเธอคนนี้เอามากๆ ที่สำคัญ แม่หนูเธอเป็นเด็กสังกัด Konvict Muzik  ของ Akon ที่อยู่ในเครือ Epic Records อีกทีซะด้วย

 

แถมสาวน้อยหน้าบานไซส์เล็กคนนี้ ยังร้อง-พูดได้อย่างคล่องแคล่วทั้งภาษาอังกฤษและสเปน อีกทั้งทักษะทางด้านการร้องเพลงของคุณน้อง ยังแตกต่างจากนักร้องทั่วไป ก็แหมนะ เล่นถูกฝึกให้ร้องเพลงโอเปร่ามาตั้งแต่เด็กๆ แถมสื่อยังพร้อมใจกันยกให้เป็น “The New Selena” ตำนานสาวละตินอีกหนึ่ง ที่เสียชีวิตไปแล้วอีกด้วย

 

โดยหนู Kat นั้น โตมากับเพลงของป้า Aretha Franklin และก็มีความคิดฝันเฟื่องประเภทชีวิตนี้หนูต้องเอาดีกับการเป็นนักร้อง ได้ออกอัลบั้มให้จงได้ จนอายุ 15 น้อง Kat เธอก็โดดไปประกวดร้องคาราโอเกะ ที่มี Coca-Cola เป็นสปอนเซอร์หลักของงาน เอาชนะมาได้ด้วยเพลง "I Will Always Love You" หวีดนี้ของป้าวิท และหลังจากเวทีนี้เอง ฝันที่ว่าก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นจนเข้าตา Epic Records ในที่สุด

 

 

 “9 Lives” คือชื่ออัลบั้มแรกที่ได้ RedOne มาโปรดิวซ์ และ Jane't Sewell-Ulepic ที่เคยเขาชิงแกรมมี่มาแล้วมาแต่งเพลงให้ ซิงเกิ้ลแรก Whine Up เริ่มเปิดทางวิทยุ 15 พฤษภา 2007 กระแสเรียกว่าแรงดี อัพขึ้นเรื่อยๆ จนขึ้นไปถึงอันดับ #29 Billboard Hot 100 กระทั่งปีนี้นี่เอง ที่ต้นสังกัดจับ 9 Lives อัลบั้มแรกของคุณน้องในเวอร์ชั่นใหม่ขายกันทั่วโลกล่ะทีนี้ ไปเมื่อ 29 เมษาที่ผ่านมา เพิ่มเพลงใหม่ “Am I Dreaming ที่โปรดิวซ์โดย Akon พร้อมงานเพลงที่อัดแน่นไปด้วยเพลงมันๆ สไตล์ป๊อบ และ แด๊นซ์ฮอลล์ แบบพ่อหนุ่ม Sean Paul ที่ นอกจาก “Whine Up” ซิงเกิ้ลแรกที่โดนใจคอเพลงสากลบ้านเราไปแล้ว ซิงเกิ้ลที่ 2 “Run The Show” ก็ได้แร็พเปอร์รุ่นใหญ่ Busta Rhymes มาร่วมแจม น่าเสียดายที่กระแสไม่ดีเท่าซิงเกิ้ลแรกตัดสินตรงที่หลุดจาก Hot 100 ทั้งที่เพลงเก๋จะตาย  แต่เอาน่ะ แค่ซิงเกิ้ลแรก ก็ถือว่าสอบผ่านแล้วล่ะจ้า

>> www.katdeluna.com

>> MV Whine Up feat. Elephant Man

>> MV Run The Show feat. Busta Rhymesซิงเกิ้ลที่ 2